ยายวัย 63 ร่ำไห้วอนช่วยลูกสาว-ลูกเขย  หลังโดนหลอกทำงานฟิลิปปินส์ 

          ยายวัย 63 ร่ำไห้วอนช่วยลูกสาว   เมื่อวันที่ 24 เดือนสิงหาคม  ปี พ.ศ. 2565 หญิงวัย 63 ปีได้ออกมาขอร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือลูกสาวกับลูกเขยที่ถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศฟิลิปปินส์

โดยหญิงสาววัย 63 ปีระบุว่าได้รับการติดต่อจากลูกสาวให้หาเงินส่งไปให้เนื่องจากนายจ้างบังคับเรียกค่าไถ่คนละ 1แสน บาทหากไม่มีเงินในจ้างขู่จะมีการส่งไปขายยังประเทศอื่น 

          จากการให้ข้อมูลของหญิงวัย 63 ปีระบุว่าก่อนหน้านี้ลูกสาวกับลูกเขย อาศัยอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ แต่เนื่องจากว่ามีหนี้สินหลายแสนบาท และยังต้องหาเงินส่งลูกเรียนหนังสือทั้งคู่จึงตัดสินใจเดินทางไปทำงานที่จังหวัดชลบุรี โดยยึดอาชีพเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร   อย่างไรก็ตามในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคมทางด้านลูกสาวได้มีการติดต่อมาหาผู้เป็นแม่บอกว่าจะเดินทางไปทำงานที่ประเทศฟิลิปปินส์เนื่องจากว่ามีเพื่อนชักชวนและอ้างว่าสถานที่ที่จะไปทำงานนั้นให้ค่าตอบแทนสูง

         อย่างไรก็ตามหญิงวัย 63 ปีได้มีการเตือนลูกสาวกับลูกเขยว่ามีความเสี่ยงสูงถ้าหากเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศเพราะมีโอกาสจะถูกพวกมิจฉาชีพหลอกลวงหรือถูกต้มตุ๋นได้แต่ลูกสาวกับลูกเขยไม่ฟังมารู้อีกครั้งหนึ่งก็รู้ว่าลูกสาวทำงานอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์แล้วซึ่งในช่วงแรกๆลูกสาวกับลูกเขยยังมีการส่งเงินมาให้โดยส่งเงินมาให้ครั้งแรก 3,500 บาทส่วนครั้งที่ 2 นั้นส่งมาให้ 7,500 บาทหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกสาวกับลูกเขยได้อีกเลย 

           ล่าสุดลูกสาว ได้ติดต่อมาขอเงินจากผู้เป็นแม่จำนวน 2 แสนบาทโดยอ้างว่าถูกนายจ้างกับกักขังเอาไว้เนื่องจากว่าไม่สามารถทำงานตามที่นายจ้างต้องการได้

โดยไม่ใช่เพียงแค่ลูกสาวกับลูกเขยเท่านั้นที่ถูกกักขังยังมีคนไทยอีกจำนวนนับสิบคนที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศฟิลิปปินส์พร้อมกันและถูกนายจ้างกักขังเอาไว้ซึ่งแต่ละคนนั้นก็จะถูกข่มขู่จากนายจ้างเรียกเงินค่าถ่ายคนละ 100 บาทโดยให้ญาติจากประเทศไทยโอนเงินไปให้ถ้าหากใครไม่มีเงิน 100000 บาทไปไถตัวเองจากนายจ้างก็จะถูกขายต่อไปยังประเทศอื่นๆ 

          อย่างไรก็ตามทางด้าน ลูกสาวคนเล็กของหญิงวัย 63 ปีระบุว่าเคยมีโอกาสได้คุยกับพี่สาวซึ่งทางด้านพี่สาวกับพี่เขยให้ข้อมูลว่าการเดินทางไปทำงานที่ประเทศฟิลิปปินส์นั้นไปทำงานเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ซึ่งจะมีการแนะนำสินค้าให้ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าและชักชวนให้คนมาลงทุนเกี่ยวกับเงินดิจิตอล bitcoin

         อย่างไรก็ตามการ ลักษณะงานที่พี่สาวของเธอไปทำนั้นจะเป็นการทำงานคล้ายกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งถ้าหากว่าไม่สามารถที่จะชักจูงคนให้มาลงทุนเงินดิจิตอล bitcoin หรือไม่สามารถขายสินค้าให้ได้ตามที่นายจ้างตั้งเป้าเอาไว้ก็จะถูกนายจ้างสั่งให้อดข้าวอดน้ำและถูกสั่งขังซึ่งในขณะนี้ญาติทุกคนเป็นห่วงพี่สาวกับพี่เขยเป็นอย่างมากจึงยาวอนให้หน่วยงานราชการให้ความช่วยเหลือนำตัวคนไทยที่ถูกกักขังอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์กลับมาประเทศไทยให้ได้ 

 

สนับสนุนโดย   สล็อตคาสิโนออนไลน์