หนุ่มโป๊ะแตก  อ้างรถถูกทุบ สินสอดหายเกลี้ยง 

เมื่อวันที่ 14 เดือนธันวาคม ปี พ.ศ 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขอนแก่น  ได้รับแจ้งจากชายหนุ่มอายุ 29 ปีว่ารถของตนเองที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถในตลาดแห่งหนึ่ง 

ได้ถูกคนร้ายทุบกระจกรถจนได้รับความเสียหายและยังมีทรัพย์สินมีค่าหายไปหลายรายการ โดยทรัพย์สินที่หายไปนั้นเป็นเงินจำนวน 500,000 บาทและทองรูปพรรณจำนวน 5 บาทซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เตรียมเอาไว้เพื่อเป็นสินสอดทองหมั้นที่จะเอาไว้ใช้ในงานแต่งงานกับแฟนสาวโดย แผนการแต่งงานจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคม ปี พ.ศ 2567 นี้ 

สำหรับจุดที่เกิดเหตุนั้นอยู่ใกล้กับถนนมิตรภาพซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น    จังหวัดขอนแก่น   ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบหลักฐานต่างๆและได้นำตัวผู้เสียหายมาเพื่อสอบถามรายละเอียดก่อนเกิดเหตุการณ์รถยนต์ถูกทุบกระจก 

โดยทางเจ้าของรถซึ่งเป็นผู้เสียหายระบุว่าตัวเขาเองขับรถมาที่ตลาดเพื่อแวะกินข้าวหลังจากนั้นกำลังจะขับรถกลับบ้านก็พบว่ารถยนต์ถูกทุบกระจกด้านข้างฝั่งที่นั่งข้างคนขับซึ่งเมื่อคนทรัพย์สินก็พบว่าหายตามที่มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไป

โดยเงินจำนวน 500,000 บาทนั้นทั้งผู้เสียหายได้มีการนำรถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อเอาเงินมาเตรียมไว้สำหรับจะแต่งงานกับแฟนสาว 

อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนและตรวจสอบหลักฐานต่างๆพร้อมกับกล้องวงจรปิดในจุดที่เกิดเหตุไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใดจึงได้เชิญผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติมและพบว่าผู้เสียหายให้การรบกวนไม่ตรงกับข้อมูลเดิมและเมื่อสอบปากคำไม่นานผู้เสียหายก็ให้การยอมรับสารภาพ

โดยยอมรับว่าเป็นผู้ทุกรสของตนเองและไม่มีทรัพย์สินใดสูญหายที่ต้องมาแจ้งความเพราะต้องการนำไปเป็นหลักฐานให้แฟนสาวรู้ว่าเงินสินสอดหาย

เนื่องจากว่าตนเองนั้นไม่สามารถหาเงินสินสอดได้ทันในวันแต่งงานได้จึงจำเป็นที่จะต้องโกหกแฟนและได้กุเรื่องดังกล่าวขึ้นมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดำเนินคดีกับชายวัย 29 ปีในข้อหาแจ้งความเท็จ  

สำหรับเรื่องของชายหนุ่มวัย 29 ปีรายนี้สามารถเป็นอุทาหรณ์ของผู้คนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวโดยหากใครคิดที่จะแต่งงานควรจะต้องมีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือทองที่ทางฝ่ายเจ้าสาวจะต้องเรียกเป็นค่าสินสอดทองหมั้นแต่ถ้าหากต้องการแต่งงานจริงๆแล้ว

ไม่มีเงินสินสอดก็ควรที่จะไปพูดคุยกับพ่อแม่ของเจ้าสาว ตามความเป็นจริง เพราะมีหลายเคสมากที่อยากจะแต่งงานแต่ไม่มีเงินไปแต่งบางคนก็ใช้เป็นวิธีอ้างสินสอดหายหรือถูกขโมยแล้วไปแจ้งความแล้วสุดท้ายก็ถูกจับเองหรือบางคนหนักกว่าเพราะมีบางคนที่ใช้วิธีไปปล้นธนาคารหรือปล้นร้านทองแต่สุดท้ายก็ต้องถูกจับและอดแต่งงานอยู่ดี 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    huaylike เข้าสู่ระบบ