ขนมเปี๊ยะเจ้าดัง เจ๊งใน 3 เดือน จากที่เคยได้วันละ เจ็ดหมื่น

การค้าขายในยุคปัจจจุบันนี้ เป็นการค้าขายที่มีความท้าทายกับเจ้าของกิจการเป็นอย่างมาก  เนื่องจากว่าปัจจุบันพฤติกรรมการของคนซื้อนั้นเปลี่ยนไปมากนั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอีกมากมายหลายอย่างที่จะส่งผลต่อกิจการของเราว่าจะสามารถเจริญก้าวหน้าได้หรือว่าจะขาดทุน  เพราะมีทั้งปัจจัยที่เป็นต้นทุน รวมถึงสินค้าที่นำเสนอได้อย่างน่าสนใจ และที่สำคัญยังมีค่าเช่าของที่ตั้งร้านค้าร่วมอีกด้วย  ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้นั่นเอง ที่ส่งผลทำให้ผู้ประกอบกิจการร้านค้าต้องมีการปรับตัวกันอย่างมาก 

ปัจจัยผุ้คนเป็นจำนวนมากที่ให้ความสนใจกับการค้าขาย ออกจากงาน นำเงินเก็บมาเปิดกิจการของตัวเอง มีหลายที่ประสบความสำเร็จกับเส้นทางนี้ ในขณะเดียวกันก็มีหลายคนเช่นกันที่ล้มเหลวกับเส้นทางนี้เช่นกัน  ซึ่งมีเจ้าของกิจการรายล่าสุดที่เขาได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของธุรกิจของตัวเอง

ที่ในตอนแรกที่เริ่มกิจการนั้นขายดีมาก มีรายได้ต่อวันไม่ต่อกว่าวันละ เจ็ดหมื่นบาทเลยทีเดียว แต่แล้วผ่านไปเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้นกิจการที่ว่าไปได้ดีกลับเจ๊งไม่เป็นท่า

ดังนั้นเจ้าของกิจการรายนี้จึงได้นำเรื่องราวของตนเอง มาโพสต์เพื่อเป็นข้อเตือนใจสำหรับใครที่กำลัง คิดจะมาประกอบธุรกิจว่าให้คิดให้ดีก่อน

  โดยที่มาของเรื่องราวคือ ก่อนหน้านี้เจ้าของกิจการรายนี้ทำธุรกิจเปิดร้านเสิรมสวย แต่ได้รับผลกระทบช่วงโควิดระบาด ทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนมาเปิดธุรกิจทำขนมขาย โดยเลือกทำขนมเปี๊ยะขาย และธุรกิจนี้ก็ไปได้ดี สามารถมีเงินมาจ่ายลูกน้องและเลี้ยงตัวเองได้ 

เมื่อธุรกิจไปได้ดี จึงมีการขยายกิจการไปหลายที่ เพราะลูกค้าชอบกิน ติดใจในรสชาติ มีการพูดกันแบบปากต่อปาก จากเดิมที่ขายตามตลาดนัดก็เปลี่ยนเป็นเปิดขายในห้างสรรพสินค้า

โดยราคาสินค้าที่ขายคิดกล่องละ 95 บาท ซึ่งในตอนนั้นรัฐบาลมีโครงการคนละครึ่งทำใหลูกค้าเข้าร่วมโครงการนี้มาสั่งซื้อสินค้าเธอเยอะมาก แต่ภายหลังที่โครงการคนละครึ่งสิ้นสุดลงปรากฎว่าลูกค้าหายไปกว่าครึ่ง 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องต้นทุนของวัตถุดิบที่นำมาทำขนมก็มีการปรับราคาสูงขึ้น แต่ทางร้านยังต้องขายขนมในราคาเท่าเดิมเพราะกลัวว่าหากมีการเพิ่มราคาขนม ลูกค้าก็จะยิ่งลดลงมากกว่าเก่านั้นเอง  และที่สำคัญ ราคาเช่าที่กับเงินเดือนของพนักงานก็ยังต้องจ่ายปกติ

เมื่อรายรับน้อยแต่รายจ่ายกลับมากขึ้น ทำให้ในที่สุดผ่านไปเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น ร้านก็เจ๊งต้องปิดตัวลงเพราะแบกรับปัญหาไม่ไหว 

สิ่งที่เจ้าของกิจการร้านนี้ต้องการออกมาแนะนำสำหรับคนที่อยากจะริเริ่มทำธุรกิจเป็นของตนเองนั่นก็คือจะต้องมีการคำนวณต้นทุนให้ดีมีการเผื่อต้นทุนเอาไว้ว่าจะมีการเพิ่มราคาในอนาคตและยังต้องคำนวณค่าแรงของตนเอง

รวมถึงค่าลูกน้องและถ้าหากมีค่าเช่าพื้นที่ก็ต้องรวมไปด้วยและต้องคำนวณให้ว่าเมื่อขายสินค้าไปแล้วสินค้าแต่ละชิ้นจะต้องมีกำไรไม่ต่ำกว่า 60% ถึงจะทำให้ไม่ขาดทุน 

 

สนับสนุนโดย    aesexy