มูลนิธิปวีณาฯ รุดช่วยสาวถูกสามีทำร้ายร่างกาย
เมื่อวันที่ 9 เดือนมีนาคม ปี พ.ศ 2566 ได้มีหญิงสาวคนนึงอายุ 28 ปีได้เดินทางไปที่มูลนิธิของปวีณาเพื่อทำการร้องขอให้ทางด้านมูลนิธิเข้าทำการช่วยเหลือ
เนื่องจากว่าเธอนั้นถูกสามีของเธอทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาหลังจากที่เห็นสภาพของหญิงสาวคนดังกล่าวก็รีบส่งตัวไปรักษาอาการทันทีโดยระบุว่าถ้าหากหญิงสาวอาการดีขึ้นจึงจะพาไปแจ้งความดำเนินคดีกับสามีของหญิงสาวคนดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
จากการให้ข้อมูลของหญิงสาววัย 28 ปีที่มาขอความช่วยเหลือกับทางมูลนิธิปวีณานั้นระบุว่าตนเองแต่งงานกับสามีแต่ว่าตลอดระยะเวลาที่อยู่กับสามีนั้นสามีมักจะทุบตีทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำ ปีที่มาขอความช่วยเหลือกับทางมูลนิธิปวีณานั้นระบุว่าตนเองแต่งงานกับสามีแต่ว่าตลอดระยะเวลาที่อยู่กับสามีนั้น
สามีมักจะทุบตีทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำโดยสามีของหญิงสาวรายนี้ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งมีนิสัยชอบเสพยาเสพติดนอกจากนี้ยังชอบดื่มเหล้าและเมื่อเมาก็จะทำการทุบตีภรรยา
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ฝ่ายสามีของหญิงสาววัย 28 ปีนั้นเคยทำงานรับจ้างทั่วไปและขายไก่ชนแต่เนื่องจากว่าเกิดภาวะปัญหาโควิดทำให้นายจ้างเลิกจ้างงาน หลังจากนั้นก็มาเก็บของเก่าขายใช้ชีวิตไปวันๆ
หญิงสาว 28 ปีรายนี้ยังกล่าวด้วยว่าทุกครั้งที่สามีเมาก็จะมีการตบตีซึ่งเธอนั้นเคยตัดขาดกับสามีไปแล้วครั้งหนึ่งเพราะทนพฤติกรรมของสามีไม่ไหวแต่สามีก็กลับมาง้อขอคืนดีและสัญญาว่าจะไม่ทำเหมือนเดิมแต่เมื่อกลับมาอยู่ด้วยกันสามีก็ยังทำร้ายร่างกายอยู่เหมือนเดิมล่าสุดสามีทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 27 เดือนกุมภาพันธ์ปีพ.ศ 2566
โดยมีการทุบทำลายร่างกายและยังนำน้ำร้อนสัตว์มาที่ใบหน้าและตามลำตัว ทำให้สุดท้ายแล้วหญิงสาวที่ถูกสามีทำร้ายร่างกายก็ทนไม่ไหวจึงได้มาขอความช่วยเหลือกับป้าที่กรุงเทพฯ โดยให้ป้าพามาขอความช่วยเหลือกับทางมูลนิธิปวีณานั่นเอง
จากการให้ข้อมูลของแพทย์ที่รักษาอาการของหญิงสาวคนดังกล่าวระบุว่าแผลของหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นมีอาการติดเชื้อซึ่งแพทย์จะต้องมีการรักษาและทำความสะอาดแผลทุกวัน ซึ่งทางนายแพทย์เชื่อว่าอีกไม่นานแผลดังกล่าวก็จะหายดี
สำหรับใครที่ถูกคนในครอบครัวทำร้ายร่างกายหรือแม้แต่สามีทำร้ายร่างกายสามารถขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาของสกุลเพื่อเด็กและสตรีได้ โดยทางมูลนิธิจะเข้าไปทำการช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องของการรักษาพยาบาลและพาไปแจ้งความดำเนินคดีซึ่งทางมูลนิธิจะเปิดให้บริการประชาชนผู้ยากไร้ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือสตรีหรือแม้แต่คนสูงอายุก็ตาม
ได้รับการสนับสนุนโดย โปรตีนใส